การจัดการต้นทุน ช่วยให้มองเห็นทิศทางของธุรกิจในอนาคต

ต้นทุน เป็นสิ่งสำคัญในการเริ่มทำธุรกิจ ซึ่งต้นทุนนั้นช่วยบอกได้ว่าธุรกิจของเราจะไปในทิศทางใด เมื่อต้องไปแข่งขันกับธุรกิจรายอื่นๆ นอกจากนี้การทราบต้นทุนที่แท้จริงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถกำหนดรายละเอียด และวางแผนงานออกมาให้เหมาะสมกับธุรกิจ ดังนั้นต้นทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ประกอบการควรให้ความสนใจเป็นพิเศษก่อนที่จะลงมือทำธุรกิจ
ต้นทุนคงที่ เป็นรายจ่ายประจำที่ผู้ลงทุนต้องเสีย ถึงแม้จะไม่มีรายรับเข้ามาก็ตาม ต้นทุนคงที่อันได้แก่ เงินเดือนพนักงาน ดอกเบี้ยของเงินกู้ ค่าเช่าสำนักงาน ค่าเช่าเครื่องจักร รวมไปถึงภาษีเงินได้ ซึ่งต้นทุนส่วนนี้ไม่ว่าจะมีกำไรน้อยหรือมากเพียงใดก็จำเป็นจะต้องจ่ายอยู่ดี
ต้นทุนผันแปร เป็นส่วนที่ต้องจ่ายโดยไม่มีระบุตายตัว โดยจำนวนเงินของต้นทุนแบบผันแปรจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลผลิตที่บริษัทของผู้ประกอบการผลิตได้ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าวัตถุดิบที่นำมาใช้เป็นปัจจัยการผลิต รวมถึงปัจจัยการผลิตทางด้านอื่นๆที่จะแปรผันไปตามจำนวนผลผลิตที่บริษัทต้องการ ซึ่งต้นทุนส่วนนี้สร้างปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าจะต้องจ่ายเท่าไร ดังนั้นผู้ประกอบการต้องคอยเช็คอยู่เสมอ
เมื่อทราบถึงความหมายของต้นทุนแล้ว วิธีการจัดการและบริหารต้นทุนทางธุรกิจ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง มีดังนี้
1.การคำนวณหารายละเอียดต้นทุนทั้งหมด เป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการต้องรีบดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการต้นทุน โดยเริ่มจากการรวบรวมจัดทำรายละเอียดข้อมูลในส่วนต่างๆที่เป็นต้นทุนและจำเป็นต้องใช้สำหรับการประกอบธุรกิจ
2.การพยายามลดต้นทุนโดยให้ผู้ประกอบการดูที่ลิสต์รายชื่อแล้วพยายามตัดทอนลดในสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากผังรายการ เช่น หากผู้ประกอบการเพิ่งจะเริ่มการทำธุรกิจและมีรูปแบบที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนักการเช่าออฟฟิศที่มีราคาแพงอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกต้อง ควรหาออฟฟิศที่ราคาถูกลง
3.ตัดตัวเลือกเพื่อลดต้นทุน แสวงหาทางเลือกพิเศษเพื่อลดต้นทุน เช่น ยื่นข้อเสนอขอส่วนลดในส่วนของราคาขายส่งจากทางซัพพลายเออร์โดยให้ข้อเสนอว่าจะซื้อสินค้าปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้นหากลดราคาขายส่งต่อหน่วยลง เพื่อเพิ่มกำไรในภายหลัง
4.นำเอาต้นทุนสุทธิที่ได้นำมาใช้คำนวณเพื่อหาจุดคุ้มทุนและผลกำไรที่จะได้รับเพื่อใช้เป็นไกด์ไลน์ในการออกแบบสร้างแผนทางธุรกิจที่เหมาะสมต่อไป ทำให้ผู้ประกอบการสามารถรู้ได้ว่าต้องสร้างแผนการตลาดที่เหมาะสมอย่างไรจึงจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

Posted in ธุรกิจ | Tagged | Comments Off on การจัดการต้นทุน ช่วยให้มองเห็นทิศทางของธุรกิจในอนาคต

การใช้สินเชื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ

20141209145717
อำนาจในการเข้าถึงการใช้สินค้าและบริการโดยสัญญาว่าจะชดใช้คืนในอนาคต โดยสินเชื่ออาจอยู่ในรูปของสินค้าและบริการหรือในรูปของเงินก็ได้ เนื่องจากในทางเศรษฐศาสตร์มองว่าหน่วยเศรษฐกิจในระบบเศรษฐกิจนั้นอาจมีลักษณะการใช้ทรัพยากรที่ไม่สมดุลกัน บางหน่วยเศรษฐกิจอาจมีความต้องการใช้สินค้าและบริการมากกว่าทรัพยากรที่ตนมีอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่บางหน่วยเศรษฐกิจอาจมีทรัพยากรเหลือใช้เกินความต้องการหากมีการโอนทรัพยากรส่วนที่เหลือใช้ไปให้ผู้ที่มีความต้องการใช้ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางกฎหมายเรียกหน่วยเศรษฐกิจที่เป็นผู้รับทรัพยากรนั้นว่าลูกหนี้ และเรียกหน่วยเศรษฐกิจที่เป็นผู้ให้ยืมทรัพยากรนั้นว่าเป็นเจ้าหนี้หรือผู้ ให้สินเชื่อมีส่วนทำให้อุปสงค์มวลรวมในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้

เนื่องจากการดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบันนี้ไม่ได้เรียบง่ายเช่นในอดีตแต่กลับต้องดำเนินชีวิตภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ที่นับวันยิ่งเชี่ยวกราดมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทุกอย่างรอบตัวกำลังรวมเป็นตลาดเดียวคือตลาดโลก โดยราคาสินค้าและบริการถูกกำหนดโดยตลาดโลกทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการย่างเข้าสู่เศรษฐกิจแบบตลาดของประเทศจีน อินเดีย และยุโรปตะวันออก การปฏิวัติทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร ต้นทุนการคมนาคมขนส่งที่ลดลงต่ำเป็นอย่างมาก ด้วยปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นแรงผลักดันให้เกิดการแบ่งงานกันทำมากขึ้น โลกาภิวัฒน์จะชักจูงการดำเนินนโยบายทางการเงินโดยให้ความสำคัญมากขึ้นในการลดเงินเฟ้อ โดยยอมเสียต้นทุนค่าเสียโอกาสที่เกิดขึ้นจากส่วนต่างผลผลิตที่มากขึ้นสามารถยืนยันได้จากการพิสูจน์โดยการเปรียบเทียบสัมประสิทธิ์ถ่วงน้ำหนักของส่วนต่างผลผลิต ภายใต้เงื่อนไขของระดับการเปิดประเทศที่แตกต่างกัน

นักธุรกิจมักใช้สินเชื่อเพื่อขยายตลาดการค้าและค้นหาลูกค้าของธุรกิจ ถ้าธุรกิจใดยอมให้ใช้สินเชื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ก็จะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ซื้อของธุรกิจนั้นๆมากขึ้น หรือบางครั้งก็เกิดจากการที่ลูกค้าต้องการสินค้าหรือบริการแต่ขาดแคลนเงินสดในขณะนั้นเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ หรืออาจะเป็นเพราะลูกค้าต้องการใช้สินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการมากกว่า ดังนั้นหากธุรกิจใดต้องการอยู่รอดก็จะเป็นต้องยอมรับสินเชื่อเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการที่ธุรกิจขาดแคลนเงินทุนในการจัดหาสินค้าหรือวัตถุดิบก็อาจจำเป็นต้องขอสินเชื่อเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไป

Posted in ธุรกิจ | Tagged | Comments Off on การใช้สินเชื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ

สถาบันการเงินหรือธนาคารถือเป็นแหล่งเงินกู้ยอดฮิตที่นักธุรกิจรู้จักกันเป็นอย่างดี

17

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เงินทุนถือปัจจัยที่สำคัญมากปัจจัยหนึ่ง เพราะไม่ว่าคุณจะทำอะไรคุณก็จำเป็นต้องใช้มันในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่คุณจำเป็น สำหรับนักธุรกิจหน้าใหม่ที่มีฐานะร่ำรวยอยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหา แต่สำหรับอีกหลายคนที่ไม่เป็นเช่นนั้นก็จำต้องหาแหล่งเงินทุนเพื่อกู้ยืม ซึ่งต่อไปนี้เราจะแนะนำแหล่งเงินทุนต่างๆให้คุณได้รู้จักจัดว่าเป็นแหล่งเงินทุนที่ดีที่สุด เพราะด้วยความคุ้นเคย และเชื่อใจกัน ทำให้คุณไม่ต้องวิ่งวุ่นหาหลักประกันหรือคนค้ำสัญญาให้วุ่นวาย ระยะเวลาดำเนินการก็สั้น อัตราดอกเบี้ยที่ต้องเสียก็อาจจะน้อยกว่าการกู้จากแหล่งอื่นๆ หรือไม่ต้องเสียเลยก็มี ทั้งคุณยังสามารถขอยืดระยะเวลาปลอดหนี้ไปได้นานกว่าเมื่อเทียบกับการกู้เงินลงทุนจากที่อื่น ยิ่งถ้าเครดิตของคุณดี มีประวัติการทำงานใสสะอาดน่าเชื่อถือ แถมแผนธุรกิจของคุณก็ดูมีแนวโน้มว่าน่าจะประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ บางทีญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงอาจสนใจ และเสนอตัวขอร่วมทุนเป็นหุ้นส่วนด้วยเลยก็ได้

เครดิตการ์ดมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการกระแสเงินสด ในระหว่างการทำธุรกิจ เช่น ถ้าคุณสั่งซื้อสินค้ามาเพื่อจำหน่าย แล้วใช้บัตรเครดิตในการชำระเงิน คุณก็จะสามารถยืดระยะเวลาชำระเงินไปได้อีกประมาณ 30-55 วัน (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ตกลงไว้ในการทำบัตรเครดิตนั้นๆ) ถ้าวงเงินที่ต้องชำระไม่พอ คุณก็อาจจะใช้วิธีเปิดบัตรเครดิตมากกว่าหนึ่งใบก็ได้ ระหว่างนั้นพอคุณจำหน่ายสินค้าแล้วได้เงินมาก็ทยอยมาจ่ายให้ครบจำนวนตามเวลาที่กำหนดข้อดีของการใช้เงินทุนจากบัตรเครดิตคือไม่ต้องเสียเงินค่าดอกเบี้ย (ในกรณีที่คุณชำระเงินเต็มจำนวน และทันตามระยะเวลาที่กำหนด) แถมยังได้ลุ้นรางวัลจากการสะสมแต้มซึ่งเป็นโปรโมชั่นเสริมสำหรับผู้ใช้บัตรเครดิตของธนาคารต่างๆอีกด้วย

สถาบันการเงินหรือธนาคารถือเป็นแหล่งเงินกู้ยอดฮิตที่นักธุรกิจรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะให้วงเงินในการกู้ยืมที่ค่อนข้างสูง และมีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกว่าแหล่งอื่นๆแล้ว แต่ละธนาคารต่างก็สนใจระบายเงินฝากที่มีมากจนล้นออกมาในรูปแบบสินเชื่อต่างๆเต็มที่ โดยเฉพาะสินเชื่อที่กำลังมีบทบาทมากในวงการธุรกิจไทยอย่างสินเชื่อ SMEs แต่ดังที่ได้กล่าวเป็นแล้วว่าเงินสินเชื่อนั้นก็คือเงินฝากของลูกค้าธนาคารคนอื่นๆนั่นเอง ทั้งธนาคารก็ไม่ใช่ผู้ที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน ทำให้ขั้นตอนในการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารนั้นยุ่งยากกว่าการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่มากมาย หลักทรัพย์ ไปจนถึงผู้ค้ำประกัน ซึ่งธนาคารจำเป็นต้องใช้เวลานานเพื่อตรวจสอบให้รอบคอบว่าทางธนาคารจะได้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยคืนจริง

Posted in ธุรกิจ | Comments Off on สถาบันการเงินหรือธนาคารถือเป็นแหล่งเงินกู้ยอดฮิตที่นักธุรกิจรู้จักกันเป็นอย่างดี

วิธีการระดมเงินทุน เมื่อธุรกิจประสบปัญหา


การหมุนเวียนเงินสดภายในบริษัทเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกิจ ยิ่งถ้าประสบปัญหาทางการเงินอย่างเร่งด่วน แต่บริษัทกลับไม่มีเงินมาหมุนเวียน ถึงแม้จะเป็นเงินเพียงน้อยนิดก็ตาม อาจส่งผลให้ธุรกิจเป็นปัญหาในภายหลังได้ ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไว้ตั้งแต่แรก เพื่อหาแนวทางแก้ไขได้ทันท่วงที

การขอสินเชื่อระยะสั้น เป็นวิธีการระดมที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในธุรกิจขนาดเล็ก ธนาคารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐหลายแห่งได้นำร่องและให้บริการรูปแบบนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว และเริ่มขยายไปยังบริษัทเอกชนตามการผลักดันของรัฐ ซึ่งวงเงินที่ขอกู้ไม่ควรเกิน 200,000 บาท ที่สำคัญบริษัทต้องมีเครดิตการเงินที่ดีพอสมควรถึงจะได้รับเงินกู้ประเภทนี้

การนำทรัพย์สินของบริษัทมาค้ำประกันเงินกู้ โดยจำนวนวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจะไม่เกินมูลค่าของหลักทรัพย์ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ไม่เกิน 85 เปอร์เซ็นต์ของราคาทรัพย์สิน หรืออาจน้อยกว่านั้นก็ได้ในสภาวะทางการเงินในปัจจุบัน บางรายอาจเข้าโรงรับจำนำ โดยทรัพย์สินที่นิยมมากที่สุดคือทองคำ

การหาแหล่งระดมทุนทางอินเตอร์เน็ตเป็นวิธีที่น่าสนใจอีกวิธีหนึ่ง อาจเป็นสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวกับการหาเงินทุนซึ่งปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเปรียบเสมือนการจับคู่ติดต่อสื่อสารกันระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ โดยในเมืองไทยเพิ่งจะได้รับความนิยม ในขณะที่ต่างประเทศมีการใช้วิธีนี้กันมานานแล้ว
ถ้าหากมีเครดิตดี การขอสินเชื่อจากธนาคารใหญ่เป็นวิธีที่ดีที่สุด สามารถแสดงผลกำไรให้ทางธนาคารเห็นได้ โดยผู้ประกอบการต้องศึกษาค้นคว้าหาธนาคารที่มีนโยบายซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนไม่มากนัก มีความยืดหยุ่นสูงทั้งในอัตราดอกเบี้ยและในส่วนของจำนวนเงินที่จะนำมาผ่อนชำระหนี้ และทางผู้ประกอบการควรเตรียมความพร้อมด้านเอกสารมาเป็นอย่างดีด้วย
จากวิธีข้างต้นที่กล่าวมายังมีอีกวิธีที่ช่วยในเรื่องการหมุนเวียนเงินทุนนั่นคือ การขอความช่วยเหลือจากบริษัทคู่เจรจาธุรกิจที่สามารถทำได้ง่าย ทั้งในเรื่องการขอเงินทุนหรือการขอยืดเวลาในการชำระเงินออกไปก่อนจนกว่ากระแสการหมุนเวียนเงินในธุรกิจของเราจะเข้าที่ สำหรับบริษัทคู่ค้าที่ดีจะช่วยส่งเสริมโครงสร้างทางการเงินของบริษัทเราก็เป็นได้

Posted in ธุรกิจ | Tagged , | Comments Off on วิธีการระดมเงินทุน เมื่อธุรกิจประสบปัญหา

การเตรียมความพร้อมในการขอกู้เงินเพื่อประกอบธุรกิจ

ในการดำเนินธุรกิจนั้น เรื่องของการดูแลสุขภาพทางการเงินของบริษัทถือเป็นสิ่งที่คุณต้องเอาใจใส่ดูแลให้มาก เนื่องจากเงินถือเป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารบริษัทให้สามารถคงสถานะอยู่รอดต่อได้ แต่ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ทำอย่างไรจีงจะทำให้บริษัทมีเงินใช้จ่ายเพียงพอกับความต้องการ เพราะนอกจากรายได้ที่มาในรูปของกำไรจากผลการดำเนินงานแล้ว บริษัทยังจำเป็นต้องมีทุนสำรองไว้ใช้ในอนาคตอันไม่แน่นอน อาทิ ซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาเสริม หรือจำเป็นต้องขยายกิจการเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดซึ่งถ้าไม่ดำเนินการในตอนนั้นอาจจะสูญเสียโอกาสได้ จึงจำเป็นต้องหาเงินทุนสำรอง ซึ่งแหล่งเงินทุนสำรองที่เรากำลังจะพูดถึงกันก็คือจากธนาคารและสถาบันการเงินนั่นเอง

เราสามารถพบเห็นการกู้เงินจากธนาคารได้อยู่บ่อยครั้งในวงจรธุรกิจ เพราะสามารถทำได้อย่างทันทีทั้งในเวลาที่ธุรกิจขาดสภาพคล่อง หรือต้องการเงินทุนเพื่อนำไปลงทุนขยายกิจการ แต่การได้มาซึ่งคำสั่งอนุมัติให้กู้เงินตามที่เราต้องการจากธนาคารนั้นดูจะเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า เพราะต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างเข้ามาประกอบการอนุมัติ ดังนั้นจึงขอนำเสนอวิธีการที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับบริษัทของคุณเพื่อให้การอนุมัติครั้งต่อไปนั้นเป็นไปโดยง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนี้

1. การเขียนแผนหรือเป้าหมายของโครงการที่ชัดเจน

ถือเป็นส่วนที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะทางธนาคารจะเริ่มพิจารณาดูจากตรงส่วนนี้ก่อนว่าผู้ประกอบการต้องการเงินกู้ไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แผนการดำเนินธุรกิจของทางบริษัทเป็นอย่างไร ดำเนินธุรกิจในด้านไหน แนวโน้มทางการตลาดเป็นอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลดี ผู้ประกอบการก็ควรจะมีผลวิจัยในด้านต่างๆ ใส่ควบคู่ลงไปด้วย เพราะจะสามารถนำมาวิเคราะห์ประกอบได้ อีกทั้งระยะเวลาในการดำเนินโครงการตามแผน รายรับหรือกำไรที่คาดว่าจะได้จากแผนงาน ระยะเวลาที่จะชำระคืนเงิน ซึ่งความชัดเจนของสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้มีโอกาสได้เงินกู้มากขึ้น

2. กระแสเงินสดของโครงการที่ชัดเจนซึ่งจะนำมาใช้คืนเงินกู้

กระแสเงินสดของโครงการนั้นเป็นหน้าที่ของทางบริษัทที่จะต้องแสดงให้ธนาคารเห็นว่าโครงการที่นำเสนอไปดังกล่าวนั้นมีประโยชน์และคุ้มค่าน่าลงทุนแค่ไหน ที่สำคัญควรชี้แจงด้วยว่าทางบริษัทสามารถหากระแสเงินสดที่ได้จากการลงทุนในโครงการนี้มาชำระหนี้ให้กับธนาคารได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ และใช้เวลาในการผ่อนชำระหนี้ที่กู้ยืมมาจากธนาคารเป็นเวลากี่ปี โดยขอแนะนำว่าถ้าจะให้ได้ผลมากกว่า 75% ระยะเวลาของการชำระหนี้คืนควรอยู่ที่ 6 – 12 ปี และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ควรเพิ่มเติมในส่วนของโครงสร้างรายได้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่าเดินทางหรือกระจายไปอยู่ยังจุดไหนของบริษัทบ้าง ทั้งนี้ควรระบุแหล่งที่มาที่ไปให้ชัดเจนมากที่สุด

3. กระแสเงินสดของบริษัท

กระแสเงินสดของทางบริษัทที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันโดยจะไม่นับรวมส่วนที่ได้มีการเสนอกู้ลงทุนเพิ่มในโครงการอนาคต ว่ากระแสเงินสดในปัจจุบันเป็นอย่างไร ใช้จ่ายไปในส่วนของอะไรบ้าง มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนเท่าไหร่ สภาพคล่องทางการเงินเป็นอย่างไร เป็นต้น

4. การจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจนของบริษัท

ในส่วนของบัญชีรายรับ – รายจ่าย ควรจะมีการจดบันทึกอย่างระเอียดที่สุดว่ามีเป็นจำนวนเท่าไหร่ รายรับที่ได้มานั้นมาจากแหล่งใดบ้าง เข้ามาเป็นจำนวนเท่าไหร่ รายจ่ายที่ต้องจ่ายออกไปนั้นเดินทางไปที่จุดไหน อย่างไร เท่าไหร่ เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อทางธนาคารแล้วยังมีประโยชน์กับบริษัทของคุณเองด้วย

5. ทรัพย์สินที่จะใช้เป็นหลักประกัน

มูลค่าของทรัพย์สินที่จะนำมาใช้เป็นหลักประกันถือได้ว่าเป็นหลักเกณฑ์ที่สำคัญมากที่สุดหลักเกณฑ์หนึ่งเลยทีเดียว เพราะทรัพย์สินจะสามารถกำหนดวงเงินกู้สูงสุดที่จะอนุมัติให้กับโครงการที่นำมาเสนอขอกู้ได้ โดยหลักทรัพย์นี้จะมาทำหน้าที่ในการค้ำประกันเงินกู้ที่ทางธนาคารอนุมัติให้กับบริษัทของคุณ โดยทรัพย์สินสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้ อสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่น บ้าน ตึก อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม โรงงาน คลังสินค้า เป็นต้น สังหาริมทรัพย์ ได้แก่ รถยนต์ เครื่องจักร วัตถุดิบ สินค้าคงคลัง เป็นต้น สินทรัพย์อื่นใด ได้แก่ ตราสารทางการเงิน ใบถือหุ้น สมุดบัญชี เงินสด ทองคำ หรือที่นอกเหนือจาก 2 ประเภทก่อนหน้านี้

6. ประวัติการชำระหนี้

ระบบเครดิตบูโร (Credit Bureau) และ บัญชีดำหรือแบล็คลิสต์ (Blacklist) ถูกนำมาใช้เพื่อจดจำและทำการบันทึกสร้างประวัติของบริษัทหรือบุคคลที่มีปัญหาในการชำระหนี้ ซึ่งหากบุคคลใดมีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีดังกล่าว บุคคลนั้นจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ซึ่งทางที่ดีที่สุดคุณควรจัดระบบโครงสร้างในบริษัทให้ดีเสียก่อนที่จะยื่นขอกู้ ตรวจสอบดูเสียก่อนว่าหุ้นส่วน ผู้บริหาร หรือกรรมการบริษัทมีใครมีชื่อติดอยู่ในบัญชีดังกล่าวหรือไม่ ถ้ามาตรวจสอบพบในภายหลังว่ามี ควรรีบทำการตัดชื่อเขาูออก มิฉะนั้นการยื่นขออนุมัติก็อาจมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่านสูง

7. สัดส่วนการลงทุนร่วมของเจ้าของ

ในข้อนี้จะเป็นการมองในส่วนของการร่วมลงทุนในโครงการของคุณผู้เป็นเจ้าของบริษัท หรือหุ้นส่วนในรายอื่นๆ เพราะถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการช่วยพิจารณาถึงความเสี่ยงของบริษัทที่ขอกู้ ว่าจะเกิดมีปัญหาการขาดสภาพคล่องตามมาในอนาคตที่มาจากสาเหตุการบริหารจัดการเงินทุนจากหนี้สินที่มีมากเกินไป โดยหลักเกณฑ์ทั่วไปจะพิจารณาจากอัตราส่วนหนี้สินรวมของบริษัท(D) ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น(E) หรือที่เรียกว่าอัตราส่วน D/E (D/E Ratio) ซึ่งไม่มีข้อกำหนดที่แน่นอนว่าควรจะมีอัตราส่วนอยู่ที่เท่าไหร่ ถึงจะได้รับการอนุมัติเงินกู้ ทำให้สามารถผ่อนผันและยืดหยุ่นได้มาก แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดเราขอแนะนำเป็นการเฉพาะว่า พยายามทำให้มีการลงทุนในส่วนของผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นให้มากที่สุดเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะได้เป็นการรักษาระดับของ D/E ไม่ให้ต่ำไปกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

Posted in ธุรกิจ | Tagged , | Comments Off on การเตรียมความพร้อมในการขอกู้เงินเพื่อประกอบธุรกิจ

แหล่งเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจขนาดเล็ก

เงินลงทุนที่ต้องใช้สำหรับเริ่มต้นธุรกิจ คือ เงินลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ ที่จำเป็นต่อธุรกิจอันได้แก่ ค่าเช่าอาคาร ค่าตกแต่งต่อเติมค่าซื้อเครื่องใช้สำนักงานค่าใช้จ่ายเริ่มแรกขณะเริ่มต้นธุรกิจค่าใช้จ่ายสำหรับแผนการตลาด การโฆษณาตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภคและเงินเดือนพนักงาน ด้วยเหตุนี้จึงควรทำแผนงานเปิดกิจการอันประกอบด้วย การประมาณค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่จะเกิดขึ้นและต้นทุนที่จ่ายไปเมื่อเริ่มต้นกิจการ ซึ่งแผนงานดังกล่าวจะช่วยให้สามารถมองเห็นภาพของการใช้เงินลงทุนได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

การหาแหล่งเงินลงทุนสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กมาจากแหล่งต่าง ๆ ได้ดังนี้
1. เงินเก็บ-เงินสะสมของครอบครัวผู้ประกอบการ
ถ้าเริ่มต้นจากตรงนี้ก็ได้ง่าย ไม่ต้องง้อใคร อยากทำธุรกิจอะไร ต้องซื้อ-เช่าตึกแถว อุปกรณ์สินค้า ตกแต่งร้านหรือจ้างพนักงานก็ทำได้ตามกำลังเงิน ของตัวเองที่มีอยู่ ถ้ามั่นใจว่าเราทำธุรกิจได้ดี เห็นโอกาสทางการตลาด คิดว่าไม่เจ๊งก็ลุยได้เลยผมถือว่าคนที่มีความคิดจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองควรต้องมีเงินทุนจากเงินเก็บ ของตนเองหรือครอบครัวอยู่ระดับหนึ่ง ถ้าไม่พอค่อยหาจากแหล่งอื่น ๆ ที่จะพูดต่อไป ถ้าทุนเริ่มต้นน้อยก็ยังไม่คิดการใหญ่ ทำธุรกิจเล็ก ๆ ใช้เงินทุนน้อย ๆ ก่อน ถ้าดีก็ค่อยกู้เงินมาขยายกิจการ ถ้าล้มเหลวก็เจ็บตัวไม่มากแค่เงินเก็บหมด ไม่ถึงขนาดต้องเป็นหนี้ แต่ถ้าคิดจะจับเสือมือเปล่าโดยหาแหล่งทุนจากภายนอกล้วน ๆ ไม่ลงเงินเองเลย ก็ต้องมีความสามารถเฉพาะตัวเป็นทุนเดิม เช่น เป็นพ่อครัวแม่ครัวที่มีฝีมือแล้วหาพรรคพวกมาลงทุนเปิดร้านอาหารให้ เราเป็นคนดูแลในครัวเป็นแบบหุ้นลมไม่ลงเงินแต่ลงแรงก็พอ จะคบกันไปได้แต่มาแบบไอเดียล้วย ๆ จะไปขอเงินชาวบ้านมาลงทุนก็ยากหน่อย

2. เงินจากเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง
กรณีไม่มีเงินเก็บหรือมีแล้วแต่ยังไม่พอที่พึ่งที่ดีที่สุดของเถ้าแก่หน้าใหม่ คือ เพื่อนฝูงและญาติพี่น้องซึ่งงานนี้จะได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่กรรม ของแต่ละคนจริง ๆ เถ้าแก่หลายคนที่ผมรู้จักและทำธุรกิจประสบความสำเร็จก็ได้เงินทุนเริ่มต้นมาจากภรรยา พ่อตา พี่ คุณตาคุณยาย ถ้าโชคดีทำบุญมามาก มีญาติพี่น้องรวยหรือภรรยารวยก็ไม่ต้องหันไปพึ่งธนาคารหรอกครับ หาญาติผู้ใหญ่ ขอยืมเงินมาลงทุนหรือชวนเขามาเข้าหุ้นกับเราได้เลย ดอกเบี้ยอาจไม่ต้องเสียหรือ เสียต่ำกว่าธนาคาร แถมยังมีระยะปลอดหนี้ยาวนานกว่าด้วย

3. จากสถานบันการเงิน
ซึ่งแหล่งทุนปัจจุบันไม่ว่า SMEs Bank , ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารออมสินและธนาคารไทยพาณิชย์เกือบทุกแห่งต่างสนใจปล่อนสินเชื่อ SMEs กันทั้งนั้น เพื่อระบายเงินฝากที่ล้นธนาคาร แต่แน่นอนครับการเอาเงินของผู้ฝากมาปล่อยกู้ ธนาคารก็ต้องการหลักประกันที่แน่ใจว่าจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยคืน เขาต้องขอหลักทรัพย์ค้ำประกัน เช่น บ้าน ที่ดิน หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ ก็ไม่ยุ่งยากนักถ้าเรามีหลักทรัพย์หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือมาค้ำประกันเกินกว่าวงเงินกู้ แต่ SMEs ที่บ่นว่ากู้ธนาคารลำบาก วุ่นวาย ส่วนหนึ่งเพราะหลักฐานไม่ครบหรือขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันมากกว่าก็เราไปกู้เงินเขานี่ครับ เขาไม่รู้จักเราต้องรอบคอบหน่อย ตรวจเอกสารนานหน่อย ลองคิดดูว่าขนาดญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงที่เรารู้จัก เขายังไม่ให้ยืมเลย และธนาคารไม่รู้จักเราเลยจะปล่อยกู้ง่าย ๆ แบบถอนเงินฝากได้อย่างไร

4. จากผู้ผลิตหรือผู้ขายสินค้า
ในกลุ่ม SMEs สายค้าส่งค้าปลีกหรือสายการผลิต เราต้องขอเครดิตจากผู้ขายสินค้ามาให้เราได้ เช่น ในการเปิดร้านค้าปลีก ผู้ค้าส่งบางรายจะยอมให้เรา สั่งสินค้ามาขายก่อนโดยยังไม่ต้องจ่ายเงิน นาน 1-2 เดือนถ้าเราวางแผนบริหารสินหมุนเวียนดี ๆ ไม่สั่งของมาเก็บมาเกินไปแล้วเร่งขายให้ได้ก่อนถึงกำหนดชำระเงิน เราก็จะได้เงินสดมาหมุนเวียนในกิจการแต่ต้องระวังอย่าหมุนเพลินจนเมื่อถึงกำหนดชำระสินค้าแล้วไม่มีเงินมาจ่ายกลายเป็นเสียเครดิตในการทำธุรกิจจนไม่อยากมีใครขายของให้หรือ ถ้าขายก็ขอเป็นเงินสด งดรับเช็ค

5. จากบัตรเครดิต
จะว่าไปแล้วบัตรเครดิตถ้านำมาใช้ให้เป็นก็จะเป็นแหล่งเงินสำหรับหมุนเวียนในการทำธุรกิจที่ดีทีเดียว เช่น ในการสั่งสินค้ามาขาย ถ้าเราชำระเป็นบัตรเครดิต เราจะยืดระยะเวลาชำระเงินไปได้อีก 30 – 55 วัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่บัตรนั้น ๆ ให้ระหว่างนั้นเราขายสินค้าได้เราก็มีเงินมากชำระบัตรเครดิตไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ย ถ้าวงเงินไม่พอ ก็ทำบัตรหลาย ๆ ใบ เอาวงเงินรวมกันได้มากพอสมควร ยุคนี้ธนาคารก็เร่งขยายตลาดบัตรเครดิตการขอทำบัตรก็ไม่ยากนักแถมยังได้สะสมแต้มแลกของรางวัลอีก

แนวทางนี้เป็นแหล่งเงินที่เบิกง่ายใช้คล่อง ถ้าบริษัทที่เราซื้อเขาไม่รับบัตรเครดิต ร้านก็จะรับรูดบัตรจากเขาได้รับเงินจากธนาคารเลย ไม่ต้องห่วงเรื่อง เช็คเด้ง แต่ก็โดนหักค่าธรรมเนียมประมาณ 1-5 % แล้วแต่บัตรและประเภทธุรกิจ ถ้าเรายอมจ่ายค่าธรรมเนียมแทนเขาบางส่วนอาจทำให้ผู้ขายยอมรับชำระด้วยบัตรเครดิตก็ได้

Posted in ธุรกิจ | Tagged , | Comments Off on แหล่งเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจขนาดเล็ก

เพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจในอุตสาหกรรมด้านการเงิน

เป็นการยากที่จะหาเส้นแบ่งของธุรกิจในอุตสาหกรรมด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการธนาคาร ด้านการประกัน รวมถึง ธุรกิจด้านหลักทรัพย์ ออกจากกันได้ แต่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงินอยู่นี้ กำลังพยายามที่จะหาช่องทาง ที่จะเพิ่มรายได้จากลูกค้าให้มากขึ้น โดยได้ริเริ่มในการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ โดยได้ออกแบบมาเพื่อเสริมการบริการด้านการเงิน ให้กับลูกค้าในการที่จะรับบริการด้านสะดวกมากยิ่งขึ้น ทางด้านภาคธุรกิจเองก็ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต มาช่วยเสริมให้การดำเนินงานหรือที่เรียกกันว่า back-office เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น

โซลูชันด้านอินเทอร์เน็ตนั้นได้ถูกพิสูจน์แล้วว่า มีคุณค่าอย่างมากในหลายต่อหลายบริษัท โดยบางแห่งนั้นความคุ้มค่าในการลงทุน ได้มาจากการใช้เทคโนโลยีมาปรับปรุงการทำงานภายในออฟฟิส และเพิ่มช่องทางในการขาย และให้การบริการแก่ลูกค้าธุรกิจด้านการเงินการธนาคารนี้ได้มีการลงทุนอย่างมาก ในการเพิ่มช่องทางที่จะติดต่อกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสาขาอย่างที่ทำกันมาเป็นเวลานาน การติดตั้งตู้ ATM เพิ่มในสถานที่ต่างๆ ตลอดจนศูนย์บริการลูกค้า และเว็บไซด์ โดยระบบต่างๆ ได้เชื่อมต่อถึงกันจากทุกช่องทางการสื่อสาร เข้ากับระบบฐานข้อมูลลูกค้า โดยไม่มีบุคคลมาเกี่ยวข้องในระบบเลย

สถาบันด้านการเงินและการธนาคารต่างๆ ได้พยายามใช้ทรัพยากรด้านบุคลากรที่มีอยู่ ให้เกิดคุณค่ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งด้านการบริการลูกค้า และกับองค์กรเอง ทุกวันนี้พนักงานขององค์กร จะเป็นฝ่ายรอให้ลูกค้าร้องขอบริการอีกไม่ได้แล้ว ในอันที่จะสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรและลูกค้านั้น พนักงานต้องทำตนเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการเงินแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ และด้วยเหตุผลที่กล่าวมานี้ การพัฒนาทรัพยากรบุคคลโดยใช้เทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตมาช่วยนั้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสถาบันด้านการเงินและการธนาคารในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอีเลิร์นนิ่ง หรือข้อมูลทางด้านบุคคลแบบออนไลน์ ตลอดจนกระบวนการดำเนินธุรกิจแบบดิจิตอล ที่เป็นไปแบบอัตโนมัติ และออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการทำธุรกิจแบบเดิม มาเน้นบทบาททางด้านการให้การปรึกษา จากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการธนาคารแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

การให้บริการด้านการเงินการการธนาคารนั้น เรื่องความเสถียรของระบบเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และสถาบันด้านการเงินหลายแห่ง ที่ได้ตัดสินใจนำกลยุทธ์ด้านอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน ก็เพราะเหตุผลนี้เป็นสำคัญ หลายองค์กรได้ผ่านพ้น และเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตที่ยากลำบากมามาก ที่พบว่าไม่ใช่เป็นเรื่องดีเลยที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในที่แห่ง เดียวรวมทั้งยังไม่คุ้มค่าต่อการสูญเสียเลย ถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และจากบทเรียนที่ได้เรียนรู้มานั้นทำให้ทุกวันนี้ หลายต่อหลายแห่งได้ทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขององค์กร รวมทั้งกระบวนการทางธุรกิจต่างๆ นั้น เป็นไปอย่างมีระบบสำรองที่มีประสิทธิภาพสูง โดยได้ใช้ระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง มาเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลหลายแห่งเข้าด้วยกัน

Posted in ธุรกิจ | Tagged | Comments Off on เพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจในอุตสาหกรรมด้านการเงิน

การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ที่ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์กำลังมีการขยายตัวมากขึ้น ทั้งในด้านการลงทุนของผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ และในด้านเจ้าของกิจการที่ต้องการพัฒนาธุรกิจของตนมาเป็นแฟรนไชส์ แต่อย่างไรก็ตามในปีต่อไปธุรกิจแฟรนไชส์จะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก แนวโน้มประเภทธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มดูจะเป็นที่นิยมมากที่สุด

การขายกิจการแฟรนไชส์มีโอกาสที่จะขายได้สูง เพราะผู้คนต่างมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และต้องการเป็นเจ้าของกิจการ เพื่อให้รับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ที่กำลังวางแผนในการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์อีกหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง กลุ่มของผู้ที่อิ่มตัวกับงานประจำอยากผันตัวเองมาทำธุรกิจแฟรนไชส์ กลุ่มของข้าราชการเกษียณอายุซึ่งต้องการมีรายได้เสริม หรือแม้แต่คนที่กำลังตกงานอยู่ก็ดี

ผู้ที่ต้องการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆทั้งในด้านของการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่พวกเขาต้องการลงทุนอย่างละเอียดและวิเคราะห์มากขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมากปิดตัวลง เนื่องจากผู้ลงทุนเชื่อว่าธุรกิจแฟรนไชส์ไม่ประสบความสำเร็จเสมอไป จึงทำให้ต้องศึกษาความเสี่ยงในการลงทุนมากขึ้น

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มว่ามาแรงที่สุดในธุรกิจแฟรนไชส์ เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่กว้าง จึงทำให้มีการขยายตัวเรื่อยๆในอนาคต แต่ในสมัยนี้ผู้ที่ต้องการซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ให้ความสำคัญเรื่องมาตรฐานมากขึ้น ข้อมูลผลตอบแทนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกธุรกิจ ซึ่งเจ้าของกิจการเองควรศึกษาให้ดีก่อนจะขาย

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนต่ำ ทำให้ได้ผลตอบแทนไม่มาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าผู้ที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์มองไม่เห็นผลตอบแทนของการลงทุนกับงานประจำ อาจทำให้รู้สึกไม่อยากดำเนินกิจการต่อ ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ จะเห็นได้จากผู้ที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์มีความรอบคอบมากขึ้นเลือกการลงทุนในกิจการแฟรนไชส์ที่มีมาตรฐาน และเริ่มที่จะลงทุนซื้อธุรกิจที่มีราคากลางไปจนถึงระดับที่สูงมาก เพราะมีผลกำไรที่สูงกว่ามาก

Posted in ธุรกิจ | Tagged , | Comments Off on การลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ ที่ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

การลงทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มไม่แน่นอน

การวางแผนการลงทุนให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายการลงทุนของคุณ เพราะเป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกัน ย่อมส่งผลต่อผลตอบแทน และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซึ่งนอกจากการทำความเข้าใจภาวะเศรษฐกิจของประเทศหรือเศรษฐกิจของโลกแล้ว ผู้ลงทุนยังต้องทำความเข้าใจข้อมูลอุตสาหกรรมอีกด้วย เนื่องจากตัวแปรทางเศรษฐกิจมักจะกระทบต่ออุตสาหกรรมแต่ละประเภทไม่เท่ากัน ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลอุตสาหกรรมอย่างละเอียดจะมีส่วนช่วยผู้ลงทุนอย่างมากในการตัดสินใจเลือกบริษัทลงทุน

เมื่อนักลงทุนได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุน

โดยการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ก็มักจะต้องทำการซื้อขายหลักทรัพย์ชนิดต่างๆ แทนที่จะได้แต่นั่งดูเฉยๆ การซื้อขายนั้นบางท่านก็มีวิธีในการซื้อขายของตัวเอง บางท่านก็ใช้วิธีถามคนอื่น ซึ่งการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไร เป็นการเล่นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงกว่าแบบอื่น แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงไปด้วย ผู้ที่เล่นหุ้นแบบนี้ก็ควรเป็นผู้ที่สามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดหุ้นได้ดี เหมาะสำหรับลงทุนในช่วงเวลาที่ดัชนีมีแนวโน้มจะขึ้นสูงไปเรื่อยๆ แต่จะยากในช่วงเวลาที่ดัชนีมีแนวโน้มจะต่ำลงไปเรื่อยๆ โดยควรคัดเลือกหุ้นที่มีลักษณะเด่น มีแนวโน้มจะขึ้นดี โดยการวิเคราะห์ที่มีเหตุและผล

ไม่ว่านักลงทุนจะเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถคาดการณ์มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นได้อย่างถูกต้อง นักลงทุนทำได้แค่ประเมินมูลค่าของหุ้นภายใต้สภานการณ์การเติบโตของกำไรในอนาคต คือโอกาสที่นักลงทุนจะประเมินมูลค่าหุ้นให้ถูกต้องนั้นเป็นไปได้ยาก ดังนั้นการที่นักลงทุนจะขายหุ้นตัวหนึ่งเพื่อไปซื้ออีกตัวหนึ่งนั้นอาจจะไม่คุ้มค่าเลย เพราะนักลงทุนเองก็ไม่สามารถตอบได้ว่าตัวเองประเมินมูลค่าหุ้นตัวไหนได้ถูกต้องมากน้อยอย่างไร ยิ่งพอรวมต้นทุนในการซื้อขายแต่ละครั้ง ซึ่งรวมถึงภาษี  ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและเสนอขาย และค่านายหน้าเข้าไป โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อขายบ่อยๆก็ยิ่งน้อยกว่าการซื้อหุ้นในบริษัทที่มีลักษณะ Wide moat แล้วก็ถือหุ้นแบบนี้ในระยะยาวเสียอีก

การซื้อหุ้น

แทนที่เราจะซื้อหุ้นตามคนส่วนใหญ่ เราควรจะซื้อหุ้นที่เราเห็นว่าราคาตลาดขณะนั้นตำกว่ามูลค่ายุติธรรม หรือมูลค่าที่แท้จริงที่เราประเมินไว้ การซื้อหุ้นแบบนี้ส่วนต่างของราคาที่จ่ายกับมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นที่ได้รับจะถือเป็นกำไรของนักลงทุน โดยนักลงทุนไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องทิศทางโดยรวมของตลาดหุ้นเพราะไม่มีใครสามารถคาดการณ์ตลาดได้ถูกต้องตลอดเวลา ดังนั้นในการซื้อหุ้นนักลงทุนควรต้องฝึกฝนอย่างมีวินัยและต้องไม่กลัวว่าจะพลาดโอกาสหากไม่ซื้อหุ้นในช่วงที่ตลาดขึ้น ความอดทนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักลงทุน เนื่องจากหุ้นดีๆอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือนานกว่านั้นกว่าที่จะแสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่แท้จริงของมัน

Posted in ธุรกิจ | Tagged , , | Comments Off on การลงทุนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่มีแนวโน้มไม่แน่นอน

ความสำคัญของสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ

1

ปัจจุบันสถาบันการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ได้มีการดำเนินธุรกิจแบบเครือข่าย หรือกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงทางธุรกิจเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการประกอบธุรกิจตามปกติ  การกำกับดูแลสถาบันการเงินแบบองค์กรเดี่ยว อาจไม่เพียงพอ ธปท. จึงได้ขยายขอบเขตการกำกับดูแลให้ครอบคลุมถึงกลุ่มธุรกิจทางการเงิน โดยปัจจุบัน ธปท. ได้เริ่มใช้การกำกับดูแลแบบรวมกลุ่มกับธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศก่อนซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากลทั้งนี้ ธปท. ได้กำหนดให้โครงสร้างของกลุ่มธุรกิจทางการเงินต้องได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ก่อนและต้องดำรงเงินกองทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8.5 ของสินทรัพย์เสี่ยงของทั้งกลุ่ม รวมทั้งปฏิบัติตามเกณฑ์เชิงคุณภาพ เช่น การจัดให้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในของกลุ่มธุรกิจที่เพียงพอ รวมทั้งดูแลกลุ่มธุรกิจให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ต่างๆ ของ ธปท. และนโยบายของบริษัทแม่ และส่งข้อมูลของกลุ่มฯให้ ธปท. ตรวจสอบ เป็นต้นนอกจากนี้ เพื่อไม่ให้ธุรกรรมมีการกระจุกตัว ธปท. จึงกำหนดให้กลุ่มฯ ดูแลการให้สินเชื่อและก่อภาระผูกพันกับบุคคลภายนอกหรือกลุ่ม ของบุคคลภายนอกและบริษัทภายในกลุ่มไม่เกินอัตราที่ ธปท. กำหนดและต้องอยู่บนพื้นฐานของการมีธรรมาภิบาลที่ดี

ความเสี่ยงด้านเครดิต หมายถึงความเสี่ยงที่ลูกหนี้หรือคู่สัญญาของธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถปฏิบัติได้ตามสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อ การลงทุน และการก่อภาระผูกพัน เช่น ลูกหนี้ไม่สามารถชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้กับธนาคารพาณิชย์ได้ ทำให้ธนาคารพาณิชย์ในฐานะเจ้าหนี้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อฐานะความมั่นคง ความเชื่อมั่นและชื่อเสียงของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งความเสี่ยงด้านเครดิตจะมีความรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินเชื่อและเงินลงทุน ดังนั้นธนาคารพาณิชย์จึงจำเป็นต้องมีนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมธปท. จึงมีการกำหนดแนวนโยบายเพื่อกำกับดูแลสินเชื่อตามความเสี่ยงที่แตกต่างกัน รวมถึงแนวนโยบายด้านคุณภาพสินเชื่อเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์มีการพิจารณาอนุมัติสินเชื่ออย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เพื่อให้มีการกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสม ธปท. จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำกับลูกหนี้รายใหญ่ การให้สินเชื่อและลงทุนในกิจการที่ธนาคารพาณิชย์มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง (Related Lending) และการกำกับการลงทุน นอกจากนี้ ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์มีสาขากระจายอยู่ในหลายประเทศและมีการทำธุรกรรมกับคู่สัญญาในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ธปท. จึงได้กำหนดให้ คณะกรรมการของธนาคารพาณิชย์จัดทำนโยบายการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญาและให้ธนาคารพาณิชย์ประเมิน ควบคุม และติดตามความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งนอกเหนือจากแนวทางข้างต้นแล้ว ธปท. ยังได้มีการกำกับดูแลธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ทั้งกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจเป็นสถาบันการเงินและมิใช่สถาบันการเงิน เพื่อให้การกำกับมีมาตรฐานเดียวกันและเป็นการดูแลหนี้ภาคครัวเรือนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

Posted in ธุรกิจ | Tagged | Comments Off on ความสำคัญของสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ

การจัดสรรเงินอย่างไรให้เหมาะกับการลงทุนในการทำธุรกิจ

การจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนนั้นแตกต่างจากการจัดสรรเงินเพื่อสำรองใช้จ่าย เนื่องจากการจัดสรรเงินลงทุนเป็นการนำเงินสดส่วนเกินที่มีอยู่หลังจากที่ได้สำรองค่าใช้จ่ายส่วนตัวไว้แล้ว ไปลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามก่อนที่คุณจะจัดสรรเงินลงทุนนั้นควรหาคำตอบให้ได้เสียก่อนว่า เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร คุณสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับใด และมีระยะเวลาที่ต้องการลงทุนนานแค่ไหน เนื่องจากเป้าหมาย ระยะเวลา และความเสี่ยงมีความสัมพันธ์กัน ยกตัวอย่างเช่น คุณมีเป้าหมายแรกที่ต้องการมีเงินไว้สำหรับเกษียณอายุ ในอีก 15 ปีข้างหน้า และรับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง การจัดสรรเงินลงทุนที่ให้น้ำหนักกับตราสารทุนจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เนื่องจากตราสารทุนให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยประมาณ 12-18% ต่อปี สำหรับการลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเมื่อคุณใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายการลงทุนแล้ว คุณอาจพิจารณาลดน้ำหนักการลงทุนในตราสารทุนลงก็เป็นได้ เห็นได้ว่าการจัดสรรเงินที่ดีจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนเสมอ เพราะจะช่วยให้คุณกำหนดลักษณะการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง

กรณีที่เป้าหมายการลงทุนของคุณมีความสำคัญมาก และมีระยะเวลาลงทุนที่ไม่นานนัก เช่น มีเป้าหมายสำหรับค่าเทอมบุตรในอีก 3 -6 เดือนข้างหน้า การแบ่งเงินไปลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีระยะเวลา 3 – 6 เดือน แทนการนำเงินไปเก็บไว้ในตราสารทุนที่มีความเสี่ยงสูงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะการลงทุนในตราสารทุนด้วยระยะเวลาอันสั้น หากเกิดความผิดพลาดอาจทำให้คุณตั้งต้นใหม่ไม่ทัน

สำหรับผู้ที่ประสงค์สร้างความมั่งคั่งทางการเงินผ่านการลงทุน การจัดสรรเงินไปเก็บไว้ในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำเพียงอย่างเดียว เช่น ลงทุนในตั๋วแลกเงิน พันธบัตรระยะสั้น หรือกองทุนรวมตลาดเงิน จะไม่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จจากการลงทุนเท่าที่ควร เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้รับไม่เพียงพอที่จะชดเชยเงินเฟ้อ ดังนั้น สำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำ และได้กันเงินสำรองต่อการดำรงชีพแล้ว แนะนำให้จัดสรรเงินลงทุนบางส่วนในตราสารทุนบ้าง เช่น ลงทุนในตราสารทุนประมาณ 10-20% ของมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน พันธบัตร หรือหุ้นกู้ เป็นต้น นอกจากนี้การลงทุนระยะยาวในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง นอกจากจะช่วยให้คุณได้รับกำไรที่เป็นส่วนต่างราคา (Capital Gain) ในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู อีกทั้งยังสามารถสร้างดอกผลระหว่างทางด้วยการปล่อยเช่าได้อีกด้วย

 

Posted in ธุรกิจ | Tagged , | Comments Off on การจัดสรรเงินอย่างไรให้เหมาะกับการลงทุนในการทำธุรกิจ

ปัจจัยของการลงทุนทำธุรกิจสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ


แน่นอนว่าคุณต้องหวังผลตอบแทนในการลงทุน เพื่อความมั่งคั่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

1. เพราะผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการลงทุน จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วยเสมอ นักลงทุนจะประสบความสำเร็จได้ จึงต้องมีความรู้และมีวินัยในการลงทุน โดยเฉพาะความรู้ความเข้าใจในเรื่องสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่จะลงทุน ความเสี่ยง สภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญในการลงทุนได้ เพราะความรู้และวินัยเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด ที่คอยปกป้องเราจากความโลภและความกลัว และจะต้องระลึกอยู่เสมอว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
2. การกระจายการลงทุนโดยการสร้างกลุ่มสินทรัพย์ลงทุน (Portfolio) จะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนได้เป็นอย่างดี เช่น หากมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการทำกำไรของบริษัทที่เราลงทุนไว้ ทำให้บริษัทดังกล่าวไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ รวมทั้งทำให้ราคาหลักทรัพย์ผันผวน อาจส่งผลให้ผลตอบแทนจากหลักทรัพย์ที่ลงทุนไว้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การสร้างกลุ่มสินทรัพย์ลงทุน คือ การจัดสรรเงินลงทุนเพื่อลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าหนึ่งประเภท เช่น ถ้ามีเงินลงทุนจำนวน 800,000 บาท อาจเลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ทองคำ หุ้นสามัญของธุรกิจในกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร หุ้นกู้บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ และกองทุนรวม 2 กองทุน เป็นต้น
3. ผู้ลงทุนจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่าผลตอบแทน และราคาของสินทรัพย์ที่ลงทุนมีความอ่อนไหวต่อภาวะแวดล้อมค่อนข้างมากและรวดเร็ว การติดตามและทบทวนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการลงทุน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจอย่างสม่ำเสมอ เราอาจจะต้องแบ่งเวลาส่วนตัวในแต่ละวันเพื่อติดตามข้อมูล ข่าวสาร รายงานการวิเคราะห์ หรือบทสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับข้อมูล ข่าวสารที่จะเป็นประโยชน์ ไม่เสียโอกาสในการลงทุน และเพื่อให้ทันต่อการรับมือกับสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อการลงทุน

หากคุณต้องการประสบความสำเร็จทางการเงินต้องการมีทรัพย์สินเพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับตัวเอง อาจเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หรือตราสารทางการเงินก็สุดแท้แต่ สิ่งแรกที่คุณต้องทำให้ก่อนก็คือ “คิดและสร้าง”การลงทุนของคุณขึ้นมาก่อน ส่วนเงินนั้นค่อยหาทีหลัง

Posted in ธุรกิจ | Tagged , | Comments Off on ปัจจัยของการลงทุนทำธุรกิจสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการ

การเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

การเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหลายคน คิดว่าการตลาดเหมือนกับการไปพบทันตแพทย์ ตรงที่จะต้องทำทุกๆ ครึ่งปี แต่ที่จริงแล้วการตลาดคือกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องมากกว่าทำๆ หยุดๆ ซึ่งทำให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างยากลำบาก หากลูกค้ามีการรับรู้ในเชิงบวกเกี่ยวกับชื่อเสียงของบริษัทคุณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณก็สนทนาหรือเจรจาเพื่อปิดการขายกับลูกค้าของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น การตลาดที่ต่อเนื่องไม่ใช่การติดคำโฆษณาสวยเก๋คู่กับป้ายสินค้าที่วางจำหน่าย แต่การตลาดคือการสื่อสารด้วยข้อความที่เหมาะสมกับคนที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสมต่างหาก การตลาดที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนมากนั้นสามารถทำได้โดยใช้วิธีการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ ทุกครั้งที่มีเราแสดงว่าเรายอมรับตัวตนของลูกค้า ลูกค้ามักจะตอบสนอง ออกแบบนามบัตรที่ลูกค้าดูแล้วรู้สึกอย่างเก็บ คนส่วนใหญ่มักโยนนามบัตรทิ้งหลังจากได้รับจากประชุมเสร็จแล้วไม่กี่ชั่วโมง การสร้างนามบัตรที่ผู้รับรู้สึกอย่างเก็บเพราะมีประโยชน์น่าจะดีกว่า อย่างเช่น ทำสมุดฉีกที่มีหมายเลขติดต่อและคำโฆษณาธุรกิจไว้ทุกๆ หน้าแล้วออกแบบให้สวยงาม Elliott Black นักวางกลยุทธ์การตลาดจาก Northbrook รัฐ Illinois กล่าวว่า “สมุดฉีกที่เป็นนามบัตรไปด้วยในตัวนี้ เก็บไว้ใช้ได้นานอย่างน้อยก็ 30 วัน ช่วยให้ลูกค้าจำเราได้ดียิ่งขึ้น”

หยุดให้บริการลูกค้าที่เขาซื้อของเราแน่ๆ อยู่แล้ว แต่ให้หันความสนใจไปที่ลูกค้าที่ยังไม่ยอมซื้อสินค้าของเราให้มากขึ้น – หากความคิดนี้ทำให้คุณกังขา ขอให้คิดไตร่ตรองดูอีกที เพราะคุณอาจตกหลุมพราง โดยมัวแต่เพิ่มยอดขายจากลูกค้ากลุ่มนี้ แต่กลับไม่เห็นผลกำไรให้งอกเงย หากคุณหยุดกิจกรรมการตลาดที่จะสื่อสารถึงลูกค้าเหล่านี้แล้ว คุณจะมีเวลาและทรัพยากรมากขึ้นไปกับลูกค้าที่จะที่ให้ธุรกิจเติบโต Michael King นักการตลาดจาก Atlanta กล่าวว่า “ร้อยละ 20 ของฐานลูกค้าในมือคุณคือกลุ่มที่สร้างยอดกำไรในแต่ละปีได้สูงถึงร้อยละ 150 ถึง 200 และร้อยละ 70 ของฐานลูกค้าคือกลุ่มที่ทำให้คุ้มทุน และอีกร้อยละ 10 คือกลุ่มที่สร้างกำไรร้อยละ 50 ถึง 100 ของยอดกำไรทั้งปี” ลองดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพในการเพิ่มผลกำไรในฐานลูกค้าของคุณอย่างละเอียดแล้วก็พุ่งเป้าให้บริการแบบ Premium Service ไปที่ลูกค้ากลุ่มนั้น พร้อมทั้งทำการตลาดอย่างเหมาะสมด้วย

Posted in ธุรกิจ | Tagged | Comments Off on การเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เงินทุนถือปัจจัยที่สำคัญอย่างมากปัจจัยหนึ่ง

 

เงินลงทุนที่ต้องใช้สำหรับเริ่มต้นธุรกิจ

คือ เงินลงทุนในทรัพย์สินต่างๆที่จำเป็นต่อธุรกิจอันได้แก่ ค่าเช่าอาคาร ค่าตกแต่งต่อเติมค่าซื้อเครื่องใช้สำนักงานค่าใช้จ่ายเริ่มแรกขณะเริ่มต้นธุรกิจค่าใช้จ่ายสำหรับแผนการตลาด การโฆษณาตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภคและเงินเดือนพนักงาน ด้วยเหตุนี้จึงควรทำแผนงานเปิดกิจการอันประกอบด้วย การประมาณค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่จะเกิดขึ้นและต้นทุนที่จ่ายไปเมื่อเริ่มต้นกิจการ ซึ่งแผนงานดังกล่าวจะช่วยให้สามารถมองเห็นภาพของการใช้เงินลงทุนได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เนื่องจากเงินทุนเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่จะทำให้ธุรกิจเป็นจริง ก่อนเริ่มทำธุรกิจควรรู้ว่าทำธุรกิจต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ ในเวลานี้เรามีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่ และจะหาเงินมาเพิ่มได้อย่างไร

จุดสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจน่าจะอยู่ที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีและตรงความต้องการของลูกค้า มีแนวทางการบริหารและการตลาดที่แข็งแรงขึ้นมาให้ได้ก่อน หลังจากที่เริ่มมีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนและมีจุดเด่นน่าสนใจแล้วการจะออกไปหาเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นและการทำธุรกิจก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูงขึ้น เมื่อผ่านจุดตั้งต้นธุรกิจมาได้แล้ว จึงถึงเวลาเริ่มมองหาทุนเพื่อขยายกิจการและเร่งการผลิตให้ทันต่อการแข่งขันในตลาด แต่ด้วยความที่ธุรกิจยังอยู่ในจุดเริ่มต้น ยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะระดมทุนด้วยการยื่นเสนอขายหุ้นในตลาด

เงินทุนที่ผู้ประกอบการนำมาใช้เริ่มต้นธุรกิจ

อาจจะมาจากส่วนของเจ้าของ หรือเงินทุนจากการก่อหนี้ ธุรกิจขนาดย่อมต้องการเงินทุนระยะสั้นและเงินทุนระยะยาวหลายประเภท ควรต้องการเงินทุนระยะสั้น ได้แก่ เงินทุนหมุนเวียน บัญชีลูกหนี้ และสินค้าคงเหลือ ส่วนความต้องการเงินทุนระยะยาว ได้แก่ ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เครื่องใช้ เครื่องตกแต่งและอุปกรณ์ แหล่งเงินทุนเพียงไม่กี่แห่งที่ให้ธุรกิจกู้ยืมเงินเพื่อตอบสนองความต้องการทุกอย่าง สถาบันการเงินส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการให้กู้ยืมเงินเฉพาะความต้องการเพียงสองอย่างเท่านั้น

สถาบันการเงิน หรือธนาคารถือเป็นแหล่งเงินกู้ยอดฮิตที่นักธุรกิจรู้จักกันเป็นอย่างดี

เพราะนอกจากจะให้วงเงินในการกู้ยืมที่ค่อนข้างสูง และมีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมกว่าแหล่งอื่นๆแล้ว แต่ละธนาคารต่างก็สนใจระบายเงินฝากที่มีมากจนล้นออกมาในรูปแบบสินเชื่อต่างๆเต็มที่ โดยเฉพาะสินเชื่อที่กำลังมีบทบาทมากในวงการธุรกิจไทยอย่างสินเชื่อ SMEs แต่ดังที่ได้กล่าวเป็นแล้วว่าเงินสินเชื่อนั้นก็คือเงินฝากของลูกค้าธนาคารคนอื่นๆนั่นเอง ทั้งธนาคารก็ไม่ใช่ผู้ที่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน ทำให้ขั้นตอนในการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารนั้นยุ่งยากกว่าการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่มากมาย หลักทรัพย์ ไปจนถึงผู้ค้ำประกัน

Posted in ธุรกิจ | Tagged , , | Comments Off on ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ เงินทุนถือปัจจัยที่สำคัญอย่างมากปัจจัยหนึ่ง