คุณเคยสังเกตหรือไม่ “ทำไมธุรกิจขนาดใหญ่ถึงประสบความสำเร็จด้วยการตลาดดิจิตอล” !! และหากธุรกิจของเรามีขนาดเล็ก (SME)จะสามารถประสบความสำเร็จ เหมือนธุรกิจขนาดใหญ่ ด้วยต้นทุนการตลาดที่ไม่สูงเหมือนธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านช่องทางการตลาดดิจิตอลได้หรือไม่ !!
เชื่อว่าผู้ประกอบการขนาดเล็กและระดับกลางต่างคิดว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ล้วนมาจากการมีต้นทุนในการตลาดที่สูง เพราะต้นทุนเป็นตัวนำสื่อ เพื่อเพิ่มช่องทางในการโปรโมทธุรกิจผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาผ่านโทรทัศน์ วิทยุ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เพื่อให้เป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก เพราะสิ่งที่จะได้หลังจากนั้นคือ กำไรจากการขาย …. ซึ่งจริงๆแล้วต้นทุนที่สูงก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด !! แต่ต่อจากนี้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป เมื่อนักการตลาดดิจิตอลได้ค้นพบวิธีที่จะรองรับให้ธุรกิจขนาดเล็กประสบความสำเร็จ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแต่ต้นทุนในการทำการตลาดที่สูงเหมือนธุรกิจขนาดใหญ่ เพียงแค่เลือกการตลาดออนไลน์เท่านั้น
ซึ่งนักการตลาดดิจิตอลได้กำหนดลำดับและขั้นตอนก่อนการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจ (SME)จะได้ประโยชน์จากกระบวนการนี้ ในการเรียนรู้ “วิธีการ” ก่อนจะ”เริ่มต้นธุรกิจออนไลน์” ซึ่งคุณสามารถปฏิบัติตามในสิ่งที่นักการตลาดดิจิตอลได้ระบุไว้ ด้วย 4 ขั้นตอน ที่คุณควรเริ่มต้นก่อนทำธุรกิจออนไลน์ ด้วยการกระทำดังต่อไปนี้:
1.ศึกษา ค้นคว้า การตลาดออนไลน์
หากคุณเริ่มทำการตลาดออนไลน์ แต่คุณให้ความสำคัญกับสินค้าเป็นอันดับแรก มากกว่าการตลาดถือว่าคุณทำผิดตั้งแต่ยังไม่เริ่ม !!
การสร้างโอกาสให้ธุรกิจประสบความสำเร็จบนโลกดิจิตอล คุณจำเป็นต้องเริ่มด้วยการตลาด เคล็ดลับคือ การดูตลาดในช่วงนั้น ว่าตอนนี้ผู้คนต่างๆกำลังมองหาอะไร สินค้าอะไร และปัญหาที่พวกเขาต้องการแก้ไข ด้วยการทำวิจัยการตลาดออนไลน์ เพราะอินเทอร์เน็ตทำให้การวิจัยนั้นแคบและเจาะจงประชากรที่มีความต้องการสิ่งๆนั้นได้ง่าย และแม่นยำ
– เยี่ยมชมฟอรั่มสินค้าออนไลน์เพื่อดูว่า คำถามไหนมีผู้ตั้งคำถามมากที่สุด (ณ ช่วงเวลานั้น) ที่รวมอยู่ภายใต้ขอบเขตของปัญหาและวิธีแก้ปัญหา.
– ตรวจสอบการค้นหาคำหลักไหนบ้างในช่วงเวลานั้น ที่มีผู้คนค้นหามากที่สุดและรองลงมาตามลำดับ
– ตรวจสอบคู่แข่งที่มีศักยภาพของคุณโดยการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของพวกเขา และจดบันทึกในสิ่งที่พวกเขามีและไม่มีอยู่ในเว็บไซต์ เช่น สินค้า และGenerate ต่างๆของเว็บไซต์
จากนั้นคุณสามารถใช้สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการจดบันทึก การศึกษาเรื่องการตลาดเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดก่อนเริ่มทำการตลาดออนไลน์ เพราะสิ่งที่คุณได้จากการศึกษา คุณสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมากำหนดรากฐานในเว็บไซต์คุณ และขยายไอเดียหรือต่อยอดในส่วนผลิตภัณฑ์ให้แตกต่างมากกว่าคู่แข่ง
2.ออกแบบเว็บไซต์
เมื่อคุณได้ศึกษาทิศทาง ทางการตลาดและเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของคุณเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้คุณก็พร้อมสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ ซึ่งคุณโปรดจำข้อนี้ให้ขึ้นใจว่าการทำเว็บไซต์ต้อง “ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย และรวดเร็ว” เพราะคุณมีเวลาเพียง 5 วินาที เพื่อดึงดูดความสนใจของใครบางคนที่เข้าชมเว็บไซต์คุณ มิฉะนั้นพวกเขาจะออกไปและอาจไม่กลับมาอีกก็เป็นได้ ดังนั้นเคล็ดลับที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณเข้าไปครองใจผู้ชม :
– เลือกหนึ่งหรือสองตัวอักษรธรรมดาบนพื้นสีขาว
– การนำทางจากหน้าหนึ่ง ไปยังอีกหน้าหนึ่ง ต้องง่ายและชัดเจน และมีลักษณะเหมือนกันในทุกๆหน้า
– ทำให้ง่ายต่อการซื้อไม่ควรเกินสองคลิกสำหรับการเข้าชมสินค้า
– ใช้กราฟิก หรือวิดีโอในการโต้ตอบกับลูกค้าผ่านทางข้อความ
– เว็บไซต์ของคุณต้องมีหน้าสนทนาออนไลน์ระหว่างคุณกับลูกค้า หรือลูกค้าด้วยกัน
3.เรียนรู้และหาหนทางขยายธุรกิจด้วย search engine
search engine นำความต้องการของผู้ซื้อไปยังเว็บไซต์คุณ !!
เมื่อคุณออกแบบเว็บไซต์เสร็จสิ้นขั้นต่อมาก็คือศึกษาโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (Pay-Per-Click) คือ วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะนำผู้ซื้อไปสู่เว็บไซต์ของคุณ หากมีจุดประสงค์ที่สอดคล้องกัน เพราะ Search Engineเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสิ่งนี้มีข้อได้เปรียบอยู่ 2 ข้อ สำหรับเว็บไซต์คุณ ข้อแรกการโฆษณา PPC จะปรากฏขึ้นบนหน้าการค้นหาทันที เมื่อมีผู้ค้นหาใส่ keywords ที่ตรงกับผลิตภัณฑ์หรือใกล้เคียงกับคุณ และสองโฆษณา PPC ช่วยให้คุณสามารถทดสอบคำหลักที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับ headline, ราคาและวิธีการขาย ไม่เพียงแต่คุณจะได้ผู้เข้าชมเว็บไซต์คุณ แต่คุณสามารถใช้โฆษณา PPC เพื่อค้นหาคำหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุด แล้วนำมาแปลงเป็นคำหลักของเว็บไซต์คุณได้ ซึ่งสิ่งนี้ก็จะช่วยในการจัดอันดับการค้นหาได้เช่นกัน
4.สร้างชื่อเสียงด้วยตัวคุณเอง
อยากจะครองใจลูกค้า เว็บไซต์ต้องเป็นอะไรที่มากกว่าธุรกิจ !!
เราต่างหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเว็บไซต์คุณต้องเป็นอะไรที่ให้มากกว่าการขาย นั่นคือ ประโยชน์ของผู้เข้าชม คุณจำเป็นต้องเผยแพร่ความรู้และข้อมูลต่างๆแบบฟรีๆ ซึ่งเนื้อหาต้องอยู่ภายใต้บริบทของผลิตภัณฑ์เดียวกับคุณ เช่น หากธุรกิจคุณขายยาสีฟัน คุณก็ต้องให้ความรู้เรื่อง การรักษาฟัน เป็นต้น สิ่งนี้จะเพิ่มผู้เข้าชมได้ เนื่องจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตล้วนหาข้อมูลต่างๆที่พวกเขาอยากรู้ผ่าน search Engine และบทความความรู้เป็นตัวกระตุ้นชั้นดี ที่จะนำพาผู้ค้นหาเข้าสู่เว็บไซต์คุณ โดยที่ผู้เข้าชมไม่เคยรู้จักเว็บไซต์ของคุณมาก่อนหากข้อมูลที่พวกเขาต้องการตรงกับเนื้อหาของคุณ และเมื่อคุณทำโฆษณาPPCเว็บไซต์ของคุณมีโอกาสที่จะติดอันดับสูงและจะมีผู้เข้าชมเพิ่มมากขึ้น จนอาจเปลี่ยนเป็นผู้ซื้อ
– เผยแพร่เนื้อหาแบบฟรีๆ สร้างบทความ, วิดีโอ, หรือเนื้อหาอื่นๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์ และกระจายเนื้อหาที่ผ่านไดเรกทอรีบทความออนไลน์หรือเว็บไซต์สื่อสังคม
– สร้างเนื้อหาแบบผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น และเนื้อหาต้องเป็นจริงเสมอ
คุณจะสามารถเข้าถึงผู้อ่านใหม่ๆได้เสมอ ผ่านเว็บไซต์อื่นๆที่ทำการแชร์เนื้อหาของคุณ เพราะเนื้อหานี้จะเชื่อมโยงกลับไปที่คุณ